จากความหมายของคำว่า "วิทยาศาสตร์" และความหมายของคำว่า "เทคโนโลยี" ที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นว่า วิทยาศาสตร์เป็นความรู้ที่นำไปใช้อธิบายได้ว่า ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น เช่น นักชีววิทยาจะอธิบายได้ว่า ทำไมเมื่อขวั้นและขูดเปลือกของพืชยืนต้นออกจะมีรากงอกออกมาได้ นักฟิสิกส์ก็จะอธิบายได้ว่า ทำไมเมื่อขดลวดตัดสนามแม่เหล็ก จึงมีกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้น เป็นต้น ส่วนเทคโนโลยีนั้นจะเป็นความรู้ว่าจะทำอย่างไร ตัวอย่างเช่น จะขยายพันธุ์พืชโดยการตอนได้อย่างไร จะผลิตกระแสไฟฟ้านำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร จะผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ เครื่องอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ โดยนำไฟฟ้ากระแสมาใช้ได้อย่างไร เหล่านี้ เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าวิทยาศาสตร์เป็นตัวความรู้ ส่วนเทคโนโลยีนั้นเป็นการนำความรู้ไปใช้ในทางปฏิบัติให้เกิดสิ่งที่เป็นรูปธรรมได้ วัดได้ หรือจับต้องได้ โดยการนำทรัพยากรธรรมชาติ ต่าง ๆ มาใช้ในทางปฏิบัติ
ความสัมพันธ์ระหว่างวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แสดงด้วยภาพดังต่อไปนี้
|
+
|
|
-------------->
|
|
|||
ภาพที่ 2 แผนภูมิความสัมพันธ์ระหว่างวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เพียร ซ้ายขวัญ. 2536. 111) |
เมื่อก่อนวิทยาศาสตร์ไม่ต้องอาศัยเทคโนโลยีมากนัก แต่ปัจจุบันทั้งสองวิชานี้ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน วิทยาศาสตร์ตอนแรก ๆ ใช้เพียงวิธีสังเกตและเหตุผล เมื่อต้องทดลองบ้างก็เริ่มใช้เครื่องมือ เมื่อการทดลองยุ่งยากขึ้น ความต้องการเครื่องมือก็มีมากขึ้น เครื่องมือจะต้องดีและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วย การทดลองทางวิทยาศาสตร์ในระยะสั้น ๆ นี้ ต้องอาศัยเทคโนโลยี เช่น การวิจัยเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์และอวกาศ เป็นต้น จึงกล่าวได้ว่า ปัจจุบันวิทยาศาสตร์พึ่งเทคโนโลยี ไม่น้อยกว่าเทคโนโลยีพึ่งวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันความรู้ทางวิทยาศาสตร์ได้ก้าวไปไกลและกว้างขวางมาก ปีหนึ่ง ๆ มีรายงานเสนอผลของการวิจัยพิมพ์ออกมาไม่น้อยกว่าล้านเรื่อง ใครต้องการความรู้เหล่านั้นก็หาได้ง่าย ผิดกับความรู้ทางเทคโนโลยี ซึ่งหาได้ยากกว่ามาก เทคโนโลยีสร้างขึ้นมาต้องอาศัยวิทยาศาสตร์ แต่วิทยาศาสตร์เกิดขึ้นโดยไม่ได้อาศัยเทคโนโลยี ต่อมาทั้งสองวิชาเริ่มมีความสัมพันธ์กันมากขึ้น ถึงแม้บางเรื่องต่างเจริญด้วยตนเอง แต่เทคโนโลยีก็ต้องอาศัยวิทยาศาสตร์มากกว่าและมีความเจริญก้าวหน้าตามวิทยา ศาสตร์ไม่ทัน (ก่องกัญจน์ ภัทรากาญจน์ และ ธนกาญจน์ ภัทรากาญจน์, 2530 : 11)
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะถือกำเนิดมาจากวิทยาศาสตร์ ดังกล่าวข้างต้นก็ตาม แต่มีข้อควรพิจารณาที่สำคัญหลายประการดังที่ เพียร ซ้ายขวัญ (2536 : 111-112) กล่าวไว้ดังนี้ คือ
1. เมื่อมีการค้นพบความรู้ใหม่ทางวิทยาศาสตร์ ก็มิได้หมายความว่า จะต้องมี
เทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้นเสมอ โดยปกติจะมีช่วงเวลาเหลื่อมระหว่างการค้นพบความรู้ใหม่ทางวิทยาศาสตร์นั้น ช่วงเวลาดังกล่าวจะสั้นหรือยาวหลายสิบปี หรือ 100 ปีก็ได้ สุดแท้แต่ความยากง่ายของความรู้ใหม่ ความต้องการ ความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ ทางสังคมและอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหรือแรงผลักดันที่ทำให้มีการพยายามพัฒนาเทคโนโลยี
2. เทคโนโลยีใหม่ ๆ นั้น อาจอาศัยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ดั้งเดิมก็ได้ เช่น
หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เกี่ยวกับแสงเลเซอร์ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับไฟฟ้าอิเล็กทรอนิคส์ และคลื่นแสง ซึ่งไม่ใช่ความรู้ใหม่ทางวิทยาศาสตร์แต่อย่างใด
สรุปได้ว่า ความรู้ทางวิทยาศาสตร์จะไม่มีคุณค่า ถ้าหากปราศจากเทคโนโลยีมาเชื่อมโยง และเทคโนโลยีที่ปราศจากความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นพื้นฐานก็ไม่สามารถจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างสูงสุด
ที่มา http://www.rmutphysics.com/charud/specialnews/6/science/unit4_5.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น